สอบถามข้อมูล LINE: @bookplus เพิ่มเพื่อน

การทาครีมกันแดด เป็นสิ่งที่ใครหลาย ๆ คนทำเป็นประจำทุกวันก่อนออกจากบ้าน ทั้งทากันแดดหน้า และทากันแดดตัว แต่สำหรับบางคนที่ทำงานอยู่ที่บ้าน หรือ Work From Home อาจจะไม่ได้ทาครีมกันแดด เพราะคิดว่าอยู่ในที่ร่มแล้ว ไม่ได้โดนแดด ไม่ต้องทาครีมกันแดดก็ได้ แต่ความเป็นจริงแล้วครีมกันแดดจำเป็นแค่ไหนแม้อยู่ในที่ร่ม ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันค่ะ

หน้าร้อนนี้ครีมกันแดดจำเป็นแค่ไหนแม้อยู่ในที่ร่ม

รังสียูวีในแสงอาทิตย์

รังสียูวีในแสงอาทิตย์ มีทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่ UVA UVB และ UVC ซึ่งรังสี UVC นั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะถูกชั้นโอโซนของโลกดูดซับ สะท้อนกลับ หรือทำลายได้ทั้งหมด เลยไม่มีผลกระทบต่อผิวหนังเท่าใดนัก ดังนั้น ในที่นี้จึงจะพูดถึงรังสี 2 ชนิด คือ UVA และ UVB ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ มากมาย ดังนี้

  • รังสี Ultraviolet A หรือ UVA สามารถแบ่งได้เป็น UVA-I และ UVA-II ในแสงแดดนั้นมี UVA มากถึง 95% รังสี UVA นั้นส่งผลร้ายต่อผิวหนัง ทำให้ผิวเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย ผิวคล้ำเข้ม เกิดจุดด่างดำ และเกิดการสร้างของอนุมูลอิสระ ส่งผลกระทบโดยอ้อมต่อดีเอ็นเอ การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม และสามารถทำให้เกิดเป็นมะเร็งผิวหนังบางชนิดได้
  • รังสี Ultraviolet B หรือ UVB เป็นรังสีที่ทำให้เกิดการ Burn หรือผิวหนังไหม้เกรียมแดด ผิวอักเสบ ผิวแก่ก่อนวัย และยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็วผิวหนังได้ หากปล่อยให้ผิวสัมผัสแสงแดดบ่อย ๆ โดยเฉพาะแดดช่วงเที่ยงหรือบ่าย หรือเมื่อฟ้าใส มีเมฆน้อย และปราศจากการป้องกันที่ดี

การทาครีมกันแดดจำเป็นไหมเมื่ออยู่แต่ในที่ร่ม

ถึงแม้ว่าจะอยู่ในบ้าน หรืออยู่ในที่ร่ม ก็ยังมีรังสี UVA จากแสงที่เล็ดลอดเข้ามาทางหน้าต่างหรือกระจกได้ ซึ่งหากเป็นกระจกใสแล้ว แสง UVA จะสามารถทะลุผ่านได้ถึง 75% ในขณะที่กระจกสีหรือกระจกสะท้อนแสง รังสี UVA จะทะลุผ่านได้ถึง 25-50% ส่วนรังสี UVB ไม่สามารถทะลุผ่านกระจกได้ แต่ถึงอย่างนั้น หากต้องการปกป้องผิวจากแสงแดดที่อาจทะลุมาตามหน้าต่างหรือกระจกขณะอยู่ในบ้าน หรืออยู่ในที่ร่ม ก็แนะนำว่าควรทาครีมกันแดดอยู่เสมอ โดยใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA ที่เหมาะสม SPF 30 และ PA 3+ ขึ้นไป พร้อมกับปิดม่าน พยายามนั่งให้ห่างจากหน้าต่างมากที่สุด หรือเปลี่ยนไปใช้กระจกลามิเนตแทนกระจกใส และติดฟิล์มกรองแสงเพื่อกรองรังสี UVA ที่ผ่านทะลุกระจกเข้ามา รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงการอยู่ในจุดที่แสงแดดส่องถึง ก็จะช่วยป้องกันรังสี UVA ที่จะเข้ามาทำร้ายผิวได้

การเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับตัวเอง

  1. เลือกครีมกันแดดที่ปกป้องได้ทั้งแสง UVB และ UVA โดยสามารถสังเกตจากค่า SPF และ PA ตามลำดับโดย ควรเลือกระดับ SPF 30 ขึ้นไป และระดับ PA 3+ ขึ้นไป
  2. เลือกเนื้อผลิตภัณฑ์ และคุณสมบัติให้เหมาะกับกิจกรรมที่ทำ หากทำงานที่บ้าน แนะนำให้เลือกเนื้อสัมผัสที่สบายผิว ไม่หนักผิวจนเกินไป และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน อาจไม่จำเป็นต้องเลือกแบบกันน้ำ กันเหงื่อ
  3. ควรเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว เช่น หากมีสภาพผิวมันก็เลือกใช้แบบเจลหรือแบบโลชั่น หากมีสภาพผิวแห้งก็เลือกใช้แบบที่มีความชุ่มชื่น หรือเนื้อสัมผัสที่เราชอบ
  4. เลือกครีมกันแดดที่สามารถป้องกันรังสีอินฟราเรด (IR) หรือรังสีความร้อนที่เราสัมผัสได้โดยตรง และแสงสีฟ้า (BL) ที่มาจากจอคอมพิวเตอร์ มือถือ และแท็บเล็ตได้
  5. เลือกครีมกันแดดที่ไม่มีสารก่อการอุดตัน (Occlusive Agents) เช่น ลาโนลิน (Lanolin) พีจี หรือโพรพิลิน ไกลคอล (Propylene Glycol) ที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน
  6. แนะนำให้เลือกใช้ครีมกันแดดประเภท Physical Sunscreen ซึ่งมีสารประกอบ เช่น Zinc Oxide และ Titanium Dioxide เพราะอุดตันรูขุมขนน้อย และไม่ดูดซึมเข้าสู่ชั้นผิว
  7. หากใช้แล้วเกิดผลเสีย หรือแพ้ มีผื่นขึ้น ให้หยุดใช้ทันที
  8. เลือกครีมกันแดดที่ไม่ก่อให้เกิดสิว ไม่มีสารกันบูด ไม่มีน้ำหอม
  9. เลือกครีมกันแดดที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะทำให้ผิวแห้ง

การทาครีมกันแดดที่เหมาะสม และถูกต้อง

  1. หากทำงานที่บ้าน อยู่ในที่ร่มตลอด เหงื่อไม่ออก ก็อาจไม่มีความจำเป็นต้องทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง
  2. หากต้องออกไปข้างนอก อยู่กลางแดด ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง ไม่ว่าครีมกันแดดนั้นจะมี SPF หรือ PA เท่าไรก็ตาม
  3. ปริมาณครีมกันแดดที่เหมาะสมต่อการทาผิวหน้า 1 ครั้ง ควรบีบครีมกันแดดไม่น้อยกว่า 2 มิลลิกรัม หรือประมาณ 2 ข้อนิ้วมือ/เหรียญ 10 บาท
  4. ครีมกันแดดในรูปแบบน้ำหรือสเปรย์ ควรใช้ในปริมาณที่มากกว่าแบบครีม ทั้งบริเวณหน้า และลำตัว
  5. หากเป็นรูปแบบน้ำหรือสเปรย์ ควรใช้ในปริมาณที่มากกว่าแบบครีม
  6. การทาครีมกันแดด นอกจากใบหน้าแล้ว อย่าลืมทาครีมกันแดดบริเวณคอ ใบหู และลำตัวด้วย
  7. หากใช้ครีมกันแดดแบบ Chemical ควรทาก่อนออกไปเจอแดดอย่างน้อย 30 นาที แต่หากเป็นแบบ Physical ก็สามารถทาแล้วเจอแดดได้เลย

สรุป

ครีมกันแดดนั้นทำหน้าที่เปรียบเสมือนเกราะป้องกันผิวไม่ให้ผิวโดนทำร้ายจากรังสียูวีในแสงอาทิตย์ ดังนั้น จึงแนะนำว่าควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF และ PA ที่เหมาะสมทุกวัน ถึงแม้ว่าวันนั้นเราจะต้องทำงานหรืออยู่ในบ้านตลอดก็ตาม ร่วมกับการป้องกันในส่วนอื่น ๆ เช่น การติดฟิล์มกรองแสงที่กระจก ปิดผ้าม่าน เป็นต้น และหากต้องออกไปข้างนอก อยู่กลางแดด ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง ไม่ว่าครีมกันแดดนั้นจะมี SPF หรือ PA เท่าไรก็ตาม ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องผิวไม่ให้ผิวหนังไหม้เกรียมแดด ผิวเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และผิวแก่ก่อนวัยอันควรค่ะ

เกี่ยวกับ Bookplus

บริษัท บุ๊คพลัส พับลิชชิ่ง จำกัด จัดตั้งขึ้นปี พ.ศ. 2548 รับออกแบบและพิมพ์งานพิมพ์ระบบออฟเซ็ท และระบบดิจิตอล จัดตั้งขึ้นเพื่อบริการและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านของงานพิมพ์ (Print On Demand) แบบ One Stop Service โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ ด้วยเครื่องจักรและเทคโนโลยีการพิมพ์ระดับสูง บริการรวดเร็วและตรงต่อเวลา