ที่มา : http://www.amazingthaitour.com
ชาวพุทธทั้งหลายเคยไหม อยากไปไหว้พระให้ครบ 9 วัดในวันเดียวแต่ติดที่ไม่รู้จะเริ่มยังไง จะไปจบที่ไหน จะต้องไปวัดไหนบ้างเพื่อให้ไม่เดินทางวกไปวนมาพาให้เสียเวลาไปเป็นวันๆ โดยที่ยังไหว้ไม่ครบ 9 วัด วันนี้เราจะมาช่วยแก้ปัญหานั้นให้เอง รับรองว่าได้ไหว้ครบ 9 วัดในวันเดียวแบบอิ่มบุญอิ่มใจ เดินทางง่ายไม่ต้องวกไปวนมาให้เสียเวลาทำบุญแน่นอน
- วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
ที่มา : https://th.readme.me/p/16990
วันและเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 06:00 – 20:00 น.
ที่ตั้ง : วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ถนนอรุณอมรินทร์ตัดใหม่ แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ 10600
พระอารามหลวงแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 เริ่มแรกในปี พ.ศ. 2368 เจ้าพระยานิกรบดินทร์ได้อุทิศบ้านและซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงเพื่อสร้างวัด แล้วน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามว่า “วัดกัลยาณมิตร” ต่อมาได้ทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานปางมารวิชัย เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่แบบเดียวกับวัดพนัญเชิง คือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต ซึ่งชาวจีนเคารพสักการะกันเป็นอย่างมากจึงพากันเรียกขานว่า “ซำปอฮุดกง” หรือ “ซำปอกง” ภายในวัดมีหอพระธรรมมณเฑียรเถลิงพระเกียรติซึ่งเป็นที่สำหรับเก็บพระไตรปิฎกสมัยรัชกาลที่ 4 นอกจากนี้ยังมีระฆังที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงพุทธประวัติและเล่าเรื่องราววิถีชีวิตชาวบ้านในสมัยรัชกาลที่ 3 อีกด้วย
- วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
ที่มา : https://novotelbangkokimpact.com/bangkok-destination/
วันและเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 07:30 – 17:30 น.
ที่ตั้ง : 158 ถนน วังเดิม แขวง วัดอรุณ เขต บางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600
วัดอรุณราชวราราม หรือ วัดแจ้ง แต่เดิมมีชื่อว่า “วัดมะกอก” เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในประดิษฐานพระแก้วมรกตที่อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ มีการปฏิสังขรณ์เรื่อยมาจนมาถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้ทรงอัญเชิญพระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมาบรรจุไว้ที่พระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถ ทรงพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอรุณราชวราราม” หลายคนมักได้ยินคำว่า “ยักษ์วัดแจ้ง” เป็นตำนานที่เล่าขานกันว่ายักษ์วัดแจ้งคู่กับยักษ์วัดโพธิ์ฝั่งตรงข้าม สิ่งที่ทำให้วัดนี้สวยงามและโดดเด่นคือพระปรางค์ที่ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ ถ้วยชามเบญจรงค์ และเปลือกหอย
- วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
ที่มา : https://thai.tourismthailand.org/
วันและเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 08:00 – 17:00 น.
ที่ตั้ง : ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร แต่เดิมชื่อ “วัดบางหว้าใหญ่” ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช วัดแห่งนี้อยู่ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี ทรงทำการปฏิสังขรณ์และได้ทรงขุดพบระฆังลูกหนึ่ง โปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และได้ทรงสร้างระฆังชดเชยไว้ที่วัดบางหว้าใหญ่ทั้งหมด 5 ลูก พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดระฆังโฆสิตาราม” ภายในมีหอพระไตรปิฎก เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากของวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
- วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
ที่มา : https://www.tlcthai.com/horo/horo-amulet/36903.html
วันและเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 08:00 – 17:00 น.
ที่ตั้ง : 2 ถนน สนามไชย แขวง พระบรมมหาราชวัง เขต พระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี มีหลักฐานปรากฎชัดเจนว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาวาศ” เมื่อปี พ.ศ. 2331 ต่อมาในรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดฯ ให้เปลี่ยนเป็น “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม” ภายในวัดมีพระนอนองค์ใหญ่ คือ พระพุทธไสยาสน์ หรือที่เรียกกันว่า “พระนอนวัดโพธิ์” มีลวดลายประดับมุกเป็นภาพมงคล 108 ประการไว้ที่ฝ่าพระบาททั้งสองข้างตามลักษณะของมหาบุรุษตามคติของอินเดีย จุดเด่นของวัดนี้ที่เรารู้จักกันดีก็คือ “ยักษ์วัดโพธิ์” บริเวณประตูทางเข้าพระมณฑปที่มีลักษณะคล้ายยักษ์ในเรื่องรามเกียรติ์
- วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ที่มา : http://www.amazingthaitour.com/
วันและเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 08:30 – 15:30 น.
ที่ตั้ง : ถนน หน้าพระลาน แขวง พระบรมมหาราชวัง เขต พระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว เป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยาที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2325 ทรงมีพระราชประสงค์ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต นอกจากนี้ยังเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ มีเพียงพุทธาวาสเท่านั้น วัดพระแก้ว นอกจากจะเป็นเหมือนแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญคู่บ้านเมืองไทยแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่ใช้ประกอบพระราชพิธีทางศาสนาที่สำคัญๆ ภายในวัดพระแก้วมีอาคารที่สำคัญๆ มากมาย เช่น พระอุโบสถที่เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต มีปราสาทพระเทพบิดร พระมณฑป พระศรีรัตนเจดีย์ หอพระนาก หอมณเฑียรธรรม นอกจากนี้ยังมีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวจากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ให้ได้ชมอีกด้วย
- วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
ที่มา : https://insidewatthai.com/
วันและเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 08:00 – 16:00 น.
ที่ตั้ง : ถนนจักรพงษ์ แขวง ชนะสงคราม เขต พระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร ชื่อเดิมคือ “วัดกลางนา” เป็นวัดเก่าแก่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา สาเหตุของชื่อวัดกลางนาเพราะตัววัดตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีทุ่งนาล้อมรอบ ต่อมา รัชกาลที่ 1 ได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า “วัดชนะสงคราม” เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทที่รบชนะข้าศึกได้ถึง 3 ครั้ง ภายในพระอุโบสถมีพระประธานคือ พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฎฐ์ มเหทธิศักดิ์ ปูชนียะชยันตะโคดม บรมศาสดาอนาวรญาณ มีพระบรมธาตุเจดีย์ที่ด้านบนสุดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ถัดลงมาเป็นพระรูปสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ชั้นล่างสุดเป็นหอกลองและระฆัง และด้านหลังพระอุโบสถยังมีรอยพระพุทธบาทจำลองอีกด้วย
- วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
ที่มา : http://www.dhammathai.org/watthai/dbview.php?No=6
วันและเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 09:00 – 17:00 น.
ที่ตั้ง : 248 ถนน พระสุเมรุ แขวง วัดบวรนิเวศ เขต พระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร หรือ วัดบวร เดิมทีเป็นวัดที่อยู่ใกล้กับวัดรังสีสุทธาวาส ต่อมาได้รวมเป็นวัดเดียวกันโดยกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพย์ รัชกาลที่ 3 ทรงสร้างขึ้นใหม่ วัดบวรเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ถือได้ว่าเป็นวัดสำคัญประจำราชวงศ์จักรี เพราะในอดีตวัดนี้เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมื่อครั้งที่ทรงพระผนวชก่อนที่จะเสด็จขึ้นครองราชย์ รวมทั้งพระมหากษัตริย์พระองค์อื่นๆ ก็เคยได้ประทับที่วัดนี้เช่นเดียวกัน
- วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
ที่มา : https://sites.google.com/site/thanyapisit570110230thanya/
วันและเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 09:00 – 16:00 น.
ที่ตั้ง : 146 ถนน บำรุงเมือง แขวง วัดราชบพิตร เขต พระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหารสร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ทรงพระราชทานนามให้แก่วัดนี้ว่า “วัดมหาสุทธาวาส” ในสมัยนั้นได้มีการอัญเชิญพระศรีศากยมุนีมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกจึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระวิหารขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระศรีศากยมุนี ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 มีการสร้างบานประตูกลางจำหลักด้วยฝีพระหัตถ์ร่วมกับกรมหมื่นจิตรภักดีของพระวิหารหลวง ภายในวัดประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 และในวันที่ 9 มิถุนายนของทุกปี ที่วัดแห่งนี้จะมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลคล้ายวันสวรรคตของพระองค์อีกด้วย
- วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
ที่มา : http://www.resource.lib.su.ac.th/web-temple/
วันและเวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 08:00 – 17:00 น.
ที่ตั้ง : 344 ถนน บริพัตร แขวง บ้านบาตร เขต ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือวัดภูเขาทอง แรกเริ่มวัดนี้มีชื่อว่า “วัดสะแก” ต่อมาในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงพระราชทานนามให้ใหม่ว่า “วัดสระเกศ” จุดเด่นของวัดนี้คือเจดีย์ภูเขาทองที่สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว สร้างไว้เพื่อเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งพระบรมสารีริกธาตุนี้ถูกขุดพบในเมืองกบิลพัสดุ์ ภายในอุโบสถของวัดนี้ประดิษฐานพระประธานปางสมาธิองค์ใหญ่ ด้านหลังพระประธานเป็นจิตรกรรมฝาผนังที่วาดเป็นภาพไตรภูมิ และบริเวณผนังโดยรอบพระอุโบสถก็มีภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยๆ ให้ได้ชมด้วย










