สอบถามข้อมูล LINE: @bookplus เพิ่มเพื่อน

อะโวคาโด ถือเป็นหนึ่งในผลไม้ยอดฮิตที่คนรักสุขภาพรับประทานกันเป็นประจำ ที่สำคัญสามารถหาซื้อได้ง่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ซึ่งอะโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีวิตามิน และแร่ธาตุที่ให้คุณประโยชน์แก่ร่างกายอยู่มากมาย แถมยังช่วยลดน้ำหนักได้ดีอีกด้วย ดังนั้น ในบทความนี้เราก็จะพาทุกคนไปหาคำตอบกันว่า ทำไมอะโวคาโดเป็นที่นิยมสำหรับสายสุขภาพ ถ้าอยากรู้แล้ว ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ

ทำไมอะโวคาโดเป็นที่นิยมสำหรับสายสุขภาพ

อะโวคาโด เป็นผลไม้พื้นเมืองของประเทศเม็กซิโก และนิยมเพาะปลูกในภูมิอากาศเขตร้อนทั่วโลก บางส่วนถูกนำมาปลูกในเขตอบอุ่น เช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ต่อมาก็มีการแพร่กระจายไปทั่วโลก ซึ่งผลไม้ชนิดนี้ เป็นที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพทั่วโลก โดยลักษณะของอะโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีผิวลักษณะขรุขระ เปลือกหนามีสีเขียวเข้ม หากเมื่อนำไปผ่านกระบวนการต้มสุก อะโวคาโดจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงหรือสีดำ ซึ่งเนื้ออะโวคาโดจะมีลักษณะเนื้อมันเป็นเนย มีรูปทรงคล้ายสาลี่ รูปไข่ หรือทรงกลม นอกจากนี้อะโวคาโดไม่เพียงแต่จะเต็มไปด้วยคุณค่าที่ดีที่ส่งผลต่อสุขภาพแล้ว ยังมีรสชาติที่อร่อยอีกด้วย

อะโวคาโดอุดมด้วยวิตามิน และแร่ธาตุสำคัญที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ โพแทสเซียม ช่วยควบคุมความดันเลือด ลูทีน ช่วยบำรุงสายตา โฟเลต มีส่วนสำคัญในการซ่อมแซมเซลล์ และจำเป็นต่อร่างกายในขณะตั้งครรภ์ วิตามินบี ช่วยต่อสู้กับโรค และการติดเชื้อ รวมถึงสารเคมีอื่น ๆ ที่อาจช่วยต่อต้านกับโรคมะเร็ง นอกจากนี้ ยังมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างต่ำ และมีไฟเบอร์สูง ช่วยให้อิ่มท้องได้นาน จึงมักเป็นที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพ โดยอะโวคาโด ผลขนาดกลาง ที่มีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 140 กรัม จะให้พลังงานประมาณ 220 กิโลแคลอรี่ โปรตีน 3 กรัม และไฟเบอร์ 9 กรัม โดยไขมันที่มีในอะโวคาโด นั้นเป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว หรือ เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นไขมันดี นั่นเอง

 

ประโยชน์ของอะโวคาโด

ช่วยลดน้ำหนัก และลดระดับไขมันชนิดเลว (LDL) ลงได้อย่างชัดเจน และยังเป็นแหล่งของกรดไขมันชนิดดี (HDL) ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง แต่มีคาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลในปริมาณต่ำ

โปรตีนสูง เนื่องจากอะโวคาโดมีโปรตีนอยู่มาก โดยโปรตีนในอะโวคาโดนั้นเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ช่วยให้ขับถ่ายได้ดีจึงไม่ทำให้ท้องผูก และยังเกี่ยวโยงกับการช่วยลดน้ำหนัก

ช่วยลดน้ำตาล เพราะอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคเบาหวาน เนื่องจากไขมันอิ่มตัวจะสามารถเข้าไปชะลอการไหลเวียนของน้ำตาลในเลือด พร้อมทั้งสามารถลดภาวะต้านของอินซูลินได้ด้วย

ป้องกันหวัด ในอะโวคาโดยังมีวิตามินซีสูง ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายไม่เจ็บป่วยเป็นหวัดได้ง่าย และยังช่วยลดอาการเลือดออกตามไรฟันได้ดีอีกด้วย

บำรุงสายตา ในอะโวคาโดนอกจากจะมีวิตามินเอ ที่เราทราบกันดีว่าช่วยบำรุงสายตาแล้ว ยังมีสารที่เรียกว่าลูทีน และซีแซนทีน ที่มีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อมอีกด้วย

ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ในอะโวคาโดนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นตัวช่วยปกป้องเซลล์ต่าง ๆ ภายในร่างกายไม่ให้ถูกทำลายจากมลพิษรอบตัวจากภายใน และภายนอก จึงทำให้ช่วยลดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งได้

ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ หากรับประทานอะโวคาโดอย่างเป็นประจำก็จะช่วยลดไขมันที่ไม่ดี และคอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งช่วยให้ไม่เกิดไขมันสะสมในเส้นเลือด สาเหตุที่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ และหัวใจตีบได้

 

วิธีดูอะโวคาโดที่สุกพร้อมรับประทาน

วิธีเช็คดูว่าผลอะโวคาโดสุกพร้อมทาน สามารถเช็คได้โดยลองสังเกตที่สีเปลือกของอะโวคาโด ถ้าเปลือกยังเขียวอยู่แสดงว่าเป็นผลดิบ กินไม่ได้ ต้องรออีกประมาณ 4-5 วัน ส่วนถ้าเปลือกมีสีคล้ำ ๆ ม่วง ๆ ปนเขียวนิดหน่อย แปลว่าเริ่มจะสุกแล้วแต่ก็ควรรออีกประมาณ 2 วัน และถ้าเมื่อไหร่เปลือกเป็นสีคล้ำดำ ขั้วผลแห้งสนิท ลองกดดูเบา ๆ แล้วรู้สึกว่านุ่มนิ่ม แบบนี้แปลว่าสุกเต็มที่ พร้อมรับประทานได้ทันที แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ด้วย

 

วิธีรับประทานอะโวคาโดให้ดีต่อสุขภาพ

รับประทานอะโวคาโดครึ่งลูก การรับประทานอะโวคาโดเป็นประจำ ถือเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่ทั้งนี้ก็คววรรับประทานแต่พอดี ซึ่งคนทั่วไปควรรับประทานอะโวคาโด วันละ 100 กรัม หรือประมาณครึ่งผลก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีแคลอรีสูง และร่างกายคนเราควรได้รับไขมันดีจากแหล่งอื่น ๆ ด้วย เช่น น้ำมันมะกอก ถั่ว ธัญพืช เป็นต้น

รับประทานอะโวคาโด 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งคนที่รับประทานอะโวคาโด 1 มื้อต่อวัน ช่วยให้รู้สึกอิ่มสบายท้องมากขึ้น และมีความหิวลดลงได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณรับประทานมื้ออื่น ๆ ได้น้อยลงไปโดยปริยาย และยังลดการกินจุบจิบระหว่างวัน แถมยังมีเส้นใยสูง และคาร์โบไฮเดรตต่ำซึ่งช่วยให้ลดน้ำหนักอย่างได้ผล นอกจากนี้

ทาอะโวคาโดบนขนมปัง การใช้อะโวคาโดบดทาบนขนมปังแทนการทาเนย สามารถเพิ่มกากใยให้ระบบขับถ่ายได้ดี เพราะเป็นผลไม้ที่มีกากใยสูงมากถึง 7% ต่อน้ำหนัก 100 กรัม ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับอาหารอื่น ๆ นอกจากนี้ไฟเบอร์ ยังมีประโยชน์ที่สำคัญต่อการลดน้ำหนัก และการเผาผลาญพลังงานอีกด้วย

สรุป

อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่คนรักสุขภาพนิยมรับประทานกัน เนื่องจากอะโวคาโด มีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างต่ำ และมีไฟเบอร์สูง ช่วยให้อิ่มท้องได้นาน อีกทั้งยังเต็มไปด้วยคุณค่าที่ดีที่ส่งผลต่อสุขภาพ จึงทำให้นิยมรับประทานกันมากในสายสุขภาพ แต่ทั้งนี้การรับประทานอะโวคาโด ก็ต้องทานแต่พอดี แนะนำว่าไม่ควรกินอะโวคาโดเกินครั้งละ 1 ผล เพราะแม้จะมีประโยชน์มากมายแต่ก็ยังเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง โดยอะโวคาโดครึ่งผลก็ให้พลังงานมากถึง 160 แคลอรี ถ้า 1 ผลเต็ม ๆ ก็ให้พลังงานเพิ่มไปอีกเป็น 320 แคลอรี ซึ่งถือว่าเยอะมากต่อการกิน 1 ครั้ง ถ้าร่างกายเผาผลาญพลังงานส่วนนี้ไม่หมด ก็จะถูกนำไปสะสมไว้ในรูปไขมัน และทำให้คุณอ้วนขึ้นได้ ดังนั้น จึงต้องทานแต่พอดี และทานครั้งละครึ่งลูก็เพียงพอแล้วค่ะ

เกี่ยวกับ Bookplus

บริษัท บุ๊คพลัส พับลิชชิ่ง จำกัด จัดตั้งขึ้นปี พ.ศ. 2548 รับออกแบบและพิมพ์งานพิมพ์ระบบออฟเซ็ท และระบบดิจิตอล จัดตั้งขึ้นเพื่อบริการและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านของงานพิมพ์ (Print On Demand) แบบ One Stop Service โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ ด้วยเครื่องจักรและเทคโนโลยีการพิมพ์ระดับสูง บริการรวดเร็วและตรงต่อเวลา