บัตรรับประกันสินค้า โดยส่วนใหญ่จะใช้กับสินค้าประเภทเครื่องประดับ เครื่องแต่งกายที่มีราคาสูง รวมทั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งการใช้บัตรรับประกันสินค้าจะทำให้ลูกค้ามั่นใจว่า สินค้าชิ้นนั้น ๆ เป็นของแท้ และพึงพอใจในสินค้า อีกทั้งยังทำให้พวกเขารู้สึกว่า สินค้าที่ได้ทำการซื้อไปนั้น มีคุณภาพ ทางแบรนด์จึงได้กล้ารับประกันสินค้าชิ้นนั้น ๆ เป็นระยะเวลายาวนาน
นอกจากนี้บัตรรับประกันสินค้า ทำให้ทางแบรนด์ตรวจสอบได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย ในกรณีที่ลูกค้านำสินค้าเข้ามาเปลี่ยนคืนหรือใช้บริการทำความสะอาด และซ่อมแซมตัวสินค้า ทางแบรนด์จะทราบได้ในทันทีเลยว่า สินค้าที่ลูกค้านำเข้ามาใช้บริการหลังการขายกับทางแบรนด์นั้น เป็นของทางแบรนด์หรือไม่ และสามารถรับบริการได้หรือไม่ เนื่องจากบนบัตรรับประกันสินค้ามีการระบุรายละเอียดต่าง ๆ ไว้อย่างครบถ้วน ดังนั้น สำหรับแบรนด์ไหนที่กำลังอยากทำบัตรรับประกันสินค้า วันนี้เราก็จะมาแนะนำข้อมูลที่ควรใส่ในบัตรรับประกันสินค้า ว่ามีข้อมูลอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
การพิมพ์บัตรรับประกันสินค้า ควรใส่ข้อมูลอะไรบ้าง?
ชื่อ และโลโก้ของแบรนด์ เป็นสิ่งที่สำคัญ และจำเป็น เพราะหากขาดชื่อและโลโก้แบรนด์ไป ลูกค้าจะทราบได้อย่างไรว่า สินค้าที่ซื้อนั้นมาจากแบรนด์ใด และนอกจากชื่อแบรนด์แล้ว หากแบรนด์นั้นมีการจัดจำหน่ายสินค้าหลากหลายสาขา ก็ควรที่จะระบุสาขาลงไปในใบรับประกันสินค้า เพราะบางแบรนด์ ลูกค้าอาจจะต้องนำสินค้าเข้าไปรับบริการกับสาขาที่ซื้อเท่านั้น แต่กับบางแบรนด์อาจจะสามารถนำบัตรรับประกันสินค้าใช้กับทุกสาขาได้ เป็นต้น
ข้อมูลสินค้าที่ทำการซื้อ หรือข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ที่ลูกค้าได้ทำการซื้อ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อแบบ ชื่อรุ่น รหัสสินค้า รวมถึงขนาด และสีของสินค้า เพื่อให้ทางพนักงานที่ให้บริการกับลูกค้า ทราบว่าสินค้าที่ระบุอยู่ในใบรับประกันสินค้า มีรายละเอียดอะไรบ้าง ซึ่งก็จะทำให้ง่ายต่อการจัดการ และตรวจสอบ โดยไม่จำเป็นต้องให้ทางลูกค้ารอนาน
ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อสินค้า จะประกอบไปด้วย ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ เพื่อให้ทางแบรนด์ติดต่อลูกค้าได้ง่าย ในกรณีที่ลูกค้านำสินค้าเข้าไปทำความสะอาด หรือ ซ่อมแซม แล้วทางแบรนด์ได้จัดการทำความสะอาดเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางแบรนด์จะได้ติดต่อผ่านเบอร์โทรศัพท์ที่ลูกค้าได้ให้ไว้ หรือหากแบรนด์ใดมีบริการจัดส่งสินค้าถึงหน้าบ้าน ทางแบรนด์จะได้จัดส่งตามที่อยู่ที่ระบุไว้ได้เลย
ข้อตกลง และเงื่อนไขการรับประกัน เป็นสิ่งที่ทางแบรนด์ได้ระบุไว้ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจตรงกันว่า สินค้าที่สามารถเข้าเงื่อนไขการรับประกันนั้น ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ซึ่งในส่วนนี้แต่ละแบรนด์ต้องเป็นคนกำหนดขึ้นมาเองว่า สินค้า หรือ ผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้น ๆ ควรที่จะมีเงื่อนไขการรับประกันอย่างไรบ้าง เพื่อให้ใบรับประกันสินค้าเหมาะกับสินค้าแต่ละชิ้น เช่น รองเท้า มีรับประกันการแตกหัก เป็นระยะเวลา 3 เดือน หากรองเท้าแตกหักสามารถเปลี่ยนได้ฟรี เป็นต้น
ช่องทางการติดต่อแบรนด์ เป็นข้อมูลส่วนสุดท้ายที่จำเป็นต้องมี เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ล้วนสงสัยว่า สินค้าของตนนั้นยังเข้าข่ายการรับประกันอยู่หรือไม่ ดังนั้น ช่องทางการติดต่ออย่าง เบอร์โทรศัพท์ Line Facebook และ Instagram มีความสำคัญ และจำเป็นที่จะต้องใส่ข้อมูลเหล่านี้ลงในบัตรรับประกันสินค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดของสินค้า และการรับประกันของสินค้าได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
สรุป
การทำบัตรรับประกันสินค้า ควรที่จะเลือกแบบให้เหมาะกับธุรกิจคุณ และเหมาะกับสินค้าประเภทนั้น ๆ นอกจากนี้ยังต้องให้ความสำคัญกับการใส่ข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วนด้วย ทั้งชื่อ โลโก้แบรนด์ ข้อมูลสินค้า ข้อมูลผู้ซื้อ เงื่อนไขการรับประกัน และช่องทางการติดต่อของแบรนด์ เป็นต้น เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ และง่ายต่อการให้บริการลูกค้าอีกด้วย
สำหรับร้านหรือแบรนด์ใดที่สนใจอยากพิมพ์บัตรรับประกันสินค้า สามารถติดต่อ บริษัท บุ๊คพลัส พับลิชชิ่ง จำกัด ของเราได้เลยค่ะ เรายินดีให้บริการออกแบบและรับผลิตบัตรรับประกันสินค้า ทุกรูปแบบ ทุกประเภท โดยไม่จำกัดจำนวนขั้นต่ำ เราพร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำ และให้บริการงานพิมพ์คุณภาพด้วยเครื่องพิมพ์มาตรฐานระดับโลก สีสวย คมชัด ไม่ซีดจาง ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัย พร้อมด้วยบริการที่รวดเร็วและตรงต่อเวลา
เกี่ยวกับ Bookplus
บริษัท บุ๊คพลัส พับลิชชิ่ง จำกัด จัดตั้งขึ้นปี พ.ศ. 2548 รับออกแบบและพิมพ์งานพิมพ์ระบบออฟเซ็ท และระบบดิจิตอล จัดตั้งขึ้นเพื่อบริการและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านของงานพิมพ์ (Print On Demand) แบบ One Stop Service โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ ด้วยเครื่องจักรและเทคโนโลยีการพิมพ์ระดับสูง บริการรวดเร็วและตรงต่อเวลา