เชื่อว่าหลาย ๆ คน จะให้ความสำคัญกับการทำความสะอาด และการใช้สกินแคร์บำรุงผิวหน้า และผิวตัวเป็นอย่างดี แต่ในบางครั้งก็ละเลยการดูแลผิวบริเวณลำคอ ซึ่งผิวบริเวณนี้เป็นอีกส่วนที่สำคัญที่ต้องดูแลเช่นเดียวกัน เพราะผิวบริเวณลำคอจะคล้ายกับผิวบริเวณรอบดวงตา ซึ่งมีความบอบบางกว่าผิวหน้า และถ้าหากไม่ดูแล อาจเกิดปัญหาหน้าตึงแต่คอหย่อยคล้อยมีรอยเหี่ยวได้โดยไม่รู้ตัว และทำให้ใบหน้าแลดูแก่กว่าวัยได้ แต่ปัญหานี้สามารถป้องกันได้ด้วยการใช้ครีมทาคอที่มีประสิทธิภาพในการยกกระชับ และลดเลือนริ้วรอย ดังนั้น ในวันนี้เราก็มี 5 ครีมทาคอ ช่วยบำรุงอย่างล้ำลึก ลดเลือนริ้วรอย คอกระชับ เต่งตึง มาแนะนำกันค่ะ จะมีครีมทาคอของแบรนด์อะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
Giffarine Astaxanthin Age-defying Neck Cream
Giffarine Astaxanthin Age-defying Neck Cream เป็นครีมบำรุงผิวบริเวณลำคอสูตรเข้มข้นพิเศษ ด้วยส่วนผสมของ แอสตา คอลลาเจน ไฮยาลูรอน และเชียร์บัตเตอร์ ที่ถูกผสมผสานเข้ากันกับเนื้อครีมที่มีความเข้มข้นพิเศษ เมื่อใช้เป็นประจำแล้วจะช่วยฟื้นฟูผิวบริเวณรอบลำคอให้เรียบเนียน ตึงกระชับ และลดความหย่อนคล้อย ซึ่งวิธีใช้ก็ง่ายมาก ๆ แค่บีบเนื้อครีมลงบนฝ่ามือแล้ววอร์มครีมโดยใช้นิ้วมือนวดวนไปมาจนเริ่มอุ่น จากนั้นใช้มือลูบไล้ครีมให้ทั่วลำคอในทิศทางยกผิวขึ้น แนะนำให้ใช้ทุกคืนก่อนนอน รับรองว่าเห็นผลแน่นอนค่ะ
ปริมาณ 75 กรัม ราคา 396 บาท
Shiseido Revital Neck Zone Essence
Shiseido Revital Neck Zone Essence เป็นครีมทาคอ ที่เป็นเนื้อเอสเซ้นส์บางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทำให้ลำคอมีความนุ่มชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ลดการเกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อยบริเวณผิวรอบลำคอ และคืนความเรียบเนียน นอกจากนี้ยังปกป้องผิวจากรังสียูวี และความแห้งกร้าน โดยแนะนำให้ใช้ตอนกลางคืนหลังอาบน้ำทำความสะอาดผิวเรียบร้อยแล้ว เริ่มต้นด้วยการบีบเนื้อครีมออกมาปริมาณเท่าเม็ดไข่มุก 2 เม็ด ลูบไล้เนื้อครีมจากบริเวณกึ่งกลางลำคอไปทางด้านซ้าย จากนั้นจึงสลับมาทำด้านขวาด้วยวิธีเดียวกัน ทำซ้ำวนไปจนครีมซึมเข้าสู่ผิว ปิดท้ายด้วยการใช้นิ้วทั้ง 4 นิ้ว ลูบไล้เนื้อครีมจากติ่งหูย้อนขึ้นไปบริเวณใบหูด้านบน ใช้เป็นประจำทุกวันจะยิ่งเห็นผลค่ะ
ปริมาณ 75 กรัม ราคา 2,200 บาท
Estee Lauder Resilience Multi-Effect Tri-Peptide Face and Neck Creme
Estee Lauder Resilience Multi-Effect Tri-Peptide Face and Neck Creme เป็นครีมทาคอ ที่มีเทคโนโลยี Tri-Peptide Complex บวกกับสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเสื่อมสลายของคอลลาเจน และช่วยให้เส้นริ้วรอย ร่องลึกบริเวณลำคอดูจางลง ยกกระชับผิวคอให้ดีขึ้น อีกทั้งยังมี SPF 15 ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี สามารถใช้ได้ทุกวัน แต่เนื้อครีมค่อนข้างเข้มข้น จึงเหมาะกับผิวแห้ง และผิวธรรมดา แนะนำให้ใช้ในช่วงกลางคืนก่อนนอนจะดีกว่าค่ะ นอกจากนี้ตัวครีมยังมีความอ่อนโยนมาก จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผิวแพ้ง่ายค่ะ
ปริมาณ 50 มิลลิลิตร ราคา 5,250 บาท
Sisley Neck Cream
Sisley Neck Cream เป็นครีมทาคอ ที่อัดแน่นไปด้วยส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิว หนึ่งในนั้นคือ สารสกัดจากโอ๊ต ซี้ดส์ ที่ทำหน้าที่เป็นแผ่นฟิล์มบางเบาช่วยประคองผิวจากภายนอก ทำให้หลังจากใช้ครีมทาคอตัวนี้แล้วรู้สึกได้ว่าผิวบริเวณคอที่มีริ้วรอยแลดูกระชับขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยปรับเรียวคอเข้ารูปได้สัดส่วน ไม่มีส่วนเกินใต้คาง และเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยลดเลือนริ้วรอยให้ดูจางลง ซึ่งสามารถใช้ได้ตั้งแต่บริเวณใต้คางจนถึงลำคอเลยค่ะ นอกจากนี้เนื้อครีมบางเบาซึมซาบรวดเร็ว ไม่อุดตันผิว ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ค่ะ
ปริมาณ 50 มิลลิลิตร ราคา 5,500 บาท
Clarins Super Restorative Decollete and Neck Concentrate
Clarins Super Restorative Decollete and Neck Concentrate เป็นครีมทาคอ และเนินอกโดยเฉพาะ มีประสิทธิภาพมุ่งเข้าบำรุง และปรับสีผิวให้เรียบเนียน ผิวที่เคยหยาบกร้านจะนุ่มนวลมากขึ้น ซึ่งครีมทาคอตัวนี้มีส่วนผสมของ Harungana ช่วยลดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย หรือรอยย่นต่าง ๆ ให้แลดูกระชับขึ้น มี Montpellier Rock-rose ช่วยลดจุดด่างดำ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และมี Oat ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งหยาบกร้าน พร้อมยกกระชับผิวให้ดูเต่งตึง อีกทั้งยังมีส่วนผสมอย่างเปปไทด์ วิตามินบี และเฮกซิลรีซอร์ซินอล ช่วยปรับสภาพผิวให้สม่ำเสมอ และดูเปล่งปลั่งมากขึ้นค่ะ
ปริมาณ 75 มิลลิลิตร ราคา 6,000 บาท
สรุป
เป็นยังไงบ้างคะกับ 5 ครีมทาคอ ที่แต่ละยี่ห้อน่าใช้มาก ๆ มีสารสกัดแบบจัดเต็มที่จะช่วยให้คอของเรากระชับ เต่งตึง และถ้าใครยังไม่เริ่มทาคอ ก็เริ่มได้ตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ เพราะปัญหาริ้วรอยที่คอเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และผิวบริเวณลำคอก็ต้องการการบำรุง และดูแล ไม่ต่างจากผิวหน้า ใครสนใจครีมทาคอของแบรนด์ไหน ก็ไปซื้อมาใช้กันได้เลยค่ะ
เกี่ยวกับ Bookplus
บริษัท บุ๊คพลัส พับลิชชิ่ง จำกัด จัดตั้งขึ้นปี พ.ศ. 2548 รับออกแบบและพิมพ์งานพิมพ์ระบบออฟเซ็ท และระบบดิจิตอล จัดตั้งขึ้นเพื่อบริการและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านของงานพิมพ์ (Print On Demand) แบบ One Stop Service โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ ด้วยเครื่องจักรและเทคโนโลยีการพิมพ์ระดับสูง บริการรวดเร็วและตรงต่อเวลา